ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

Myself

             My name is Naowarat Ake. I'm an English student in Faculty of Education, Nakhon Si Thammarat University.My student number 5311114038

 


                                                                   English 02

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

สรุปประจำสัปดาห์


27 มิถุนายน 2555
สิ่งที่เรียนรู้จากการเรียนการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ อาจารย์สอนให้สร้างแบบทดสอบในโปรแกรม Microsoft Word  ซึ่งมีด้วยกัน 3 แบบ คือ แบบช่องว่าหรือเติม  แบบตัวเลือก แบบตอบ มีลักษณะคล้ายกับแบบทดสอบออนไลน์ที่ผู้เรียนสามารถเข้าไปทำข้อสอบได้และสามารถป้องกันเอกสารไม่ให้บุคคลอื่นเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อสอบได้
4 กรกฎาคม 2555
การสร้าง blog วันนี้อาจารย์สอนเรื่องการสร้าง blog โดยเริ่มจากการสมัคร email และสมัคร blog จากนั้นอาจารย์ก็สอนให้เปลี่ยน template และเพิ่ม gadget ต่างๆ เช่น นาฬิกา ปฏิทิน ตัวนับ วิดีโอ เป็นต้น  
             11 กรกฎาคม 2555
              วันนี้อาจารย์สอนเรื่อง story board โดยเริ่มจากการเลือกเรื่องที่จะทำ CAI แล้วให้ออกแบบบทเรียนและสร้าง story board โดยใช้กระดาษ A4 พับครึ่ง และใส่ชื่อเรื่อง, ปุ่ม,  pre-test, lesson, exercise l, exercise ll, และ post-test
               18 กรกฎาคม 2555
               วันนี้เรียนรู้เรื่องการใช้โปรแกรม  Adobe Captivate 5 หรือโปรแกรมสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซึ่งรายละเอียดในโปรแกรมมากพอสมควร มีการตั้งค่าต่างๆมากมายและต้องตั้งค่าทุกหน้า ทุกรูปภาพ หรือทุกประโยค รู้วิธีการใส่รูป ใส่รูปเคลื่อนไหว และใส่ตัวอักษร โปรแกรมยากมากต้องอาศัยการฝึกฝนเพื่อให้จำและนำไปใช้ได้
               25 กรกฎาคม 2555
               วันนี้อาจารย์สอนเรื่องการใช้โปรแกรม Adobe Captivate 5 ต่อ แต่วันนี้สอนเรื่องการออกข้อสอบแบบ multiple choice  ตั้งค่าต่างๆ และฝึกทำให้เกิดความชำนาญ

                       1 สิงหาคม 2555
                       วันนี้อาจารย์สอนเรื่องการออกข้อสอบแบบ True/ false และ Matching  ข้อสอบทั้งสองแบบแตกต่างกันแต่วิธีการตั้งค่าต่างๆคล้ายกันจึงไม่ยากเท่าไหร่


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Applying Innovative Spirit to Multimedia Foreign Language Teaching

การประยุกต์นวัตกรรมลงในสื่อเพื่อใช้สอนภาษาต่างประเทศ
ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ เน้นให้เด็กศึกษาด้วยตนเอง ในขณะที่สถานศึกษาก็ถูกคาดหวังให้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการการเรียนการสอน แม้แต่การเรียนภาษาต่างประเทศเองก็ตาม แต่สื่อเหล่านี้ช่วยให้กาเรียนการสอนภาษาอังกฤษดีขึ้นหรือไม่
แนวคิดเกี่ยวกับการสอนโดยใช้สื่อและนวัตกรรมทางการศึกษา
            การเรียนการสอนภาษาในสมัยก่อนนั้นจะขึ้นอยู่กับครู นักเรียน ชอล์ก กระดานดำ และเทป ในขณะที่การสอนโดยใช้สื่อนั่นครู นักเรียน คอมพิวเตอร์ และบทเรียนนั้นจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร
สรุป
            การสอนภาษารูปแบบใหม่ ยังต้องรอพิสูจน์ไปอีกสักพัก แต่ทั้งนี้รูปแบบของมันเองก็ปะสบผลสำเร็จไประดับหนึ่ง ทั้งที่ยังต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้สอน นักเรียน และสื่อนวัตกรรมนั้นเอง

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Innovative Educational Technology in the Global Classroom

Innovative Educational Technology in the Global Classroom

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

On The Problems and Strategies of Multimedia Technology in English Teaching

ปัญหาและทางแก้ไขในการใช้เทคโนโลยีสำหรับสอนภาษาอังกฤษ
1.วิเคราะห์ความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ
1.1 เพื่อสร้างความสนใจในการเรียนของเด็กๆ เนื่องจากสื่อและเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถทำให้ผู้เรียนรู้สึกถึงความสมจริง ทำให้สามารถดึงความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี
1.2 เพื่อส่งเสริมระดับการสื่อสารของผู้เรียน การสอนแบบดั้งเดิมนั้นจะเน้นให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางด้านการฟังและการอ่าน ทำให้เด็กไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ด้านการสื่อสารได้ แต่เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถช่วยกระตุ้นให้นักเรียนสื่อสารและคิดได้ดียิ่งขึ้นเพราะเทคโนโลยีในการสอนจะช่วยให้นักเรียนคิดบวกและฝึกสื่อสารในชีวิตจริงได้
1.3 เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าใจวัฒนธรรมตะวันตกได้ดียิ่งขึ้น สื่อเทคโนโลยีสามารถนำเสนอข้อมูลให้แก่ผู้เรียนได้มากกว่าหนังสื่อเรียนทั่วไปเพราะนอกจากจะสอนภาษาแล้วสื่อเหล่านี้ยังนำเสนอวัฒนธรรม เนื้อหาที่สมบูรณ์ และภาษาที่ใช้ได้ในชีวิตจริง
1.4) เพื่อพัฒนาศักยภาพในการสอน เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่ม ความสามารถในการสอนและลดการเป็นศูนย์กลางของตัวครูลง เพราะในชั้นเรียน ที่มีเด็กเป็นจำนวนมากทำให้ครูไม่สามารถโต้ตอบกับทุกคนได้ แต่เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยสร้างการสื่อสารกับผู้เรียนแทน

2. การวิเคราะห์ถึงปัญหาการใช้เทคโนโลยีในชั้นเรียน
2.1) เมื่อตัวหลักถูกแทนที่ด้วยตัวช่วย วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยี คือการนำมาใช้ช่วยในการสอน แต่หากผู้สอนพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป ก็จะเหมือนกับว่าทั้งผู้สอนและนักเรียนตกเป็นทาสของ คอมพิวเตอร์ ดังนั้น ผู้สอนควรใช้เทคโนโลยีให้น้อยลง แต่ให้ถูกต้องมากขึ้น
2.2) ปัญหาในด้านการสื่อสาร ถึงแม้เทคโนโลยีจะช่วยในการเรียนภาษา แต่มันกลับลดปริมาณการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนลง เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยภาพและเสียงของสื่อ ผู้เรียนจึงกลายเป็นเพียงผู้ชมในชั้นเรียนเท่านั้น
2.3) การหดตัวลงของศักยภาพทางการคิดของผู้เรียน เนื่องจากปกติแล้ว  การเรียนการสอนภาษาไม่ได้มีการสาธิต และเป็นเพียงแค่การถามตอบระหว่างครูกับผู้เรียน โดยครูจะถามคำถามแล้วในผู้เรียนคิด แต่เมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในชั้นเรียน ทำให้ผู้เรียนไม่ค่อยได้ใช้ทักษะการคิด เราควรจะกระตุ้นให้เด็กคิดมากขึ้น และลดเวลาในการใช้มัลติมีเดียให้น้อยลง
2.4) การคิดนามธรรมถูกแทนที่ด้วยจินตนาการ วัตถุประสงค์หลักในการสอนเพื่อเสริมการคิดเชิงนามธรรมของนักเรียน สื่อช่วยให้การสอนง่ายขึ้น เพราะมันช่วยเปลี่ยนจากจิตนาการเป็นภาพของจริงให้ผู้เรียนได้เห็น แต่สิ่งเหล่านี้กลับทำให้ความคิดเชิงตรรกะ เชิงความคิดของนักเรียนถูกทำลาย ในปัจจุบัน ความสามารถในการอ่านลดลง ตัวอักษรถูกแทนที่ด้วยคีย์บอร์ด เทคโนโลยี การเรียนการสอนแย่ลง อย่างไรก็ตาม สื่อเทคโนโลยีจะไม่สามารถแทนที่ครูและกระบวนการสอนได้

3. ข้อแนะนำและกลยุทธ์จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
3.1) การเรียนการสอนในชั้นเรียนไม่ใช่บทบาทของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าสื่อการสอนช่วยให้ครูสอนในชั้นให้ดีขึ้น โดยในขณะที่สอนนั้น ครูจะมีบทบาทหลักที่ไม่สามารถแทนที่ได้ด้วยคอมพิวเตอร์
3.2) จอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถแทนที่ด้วยกระดานได้ แม้ว่าจอคอมพิวเตอร์จะสามารถใช้งานแทนกระดานดำได้เป็นอย่างดี แต่ครูควรใช้กระดานดำบ้าง เพราะง่ายต่อการแก้ไข และสามารถตอบสนองได้ทันที
3.3) Power point ไม่สามารถแทนที่การคิด และการฝึกฝนของนักเรียนได้ จะสังเกตได้ว่าปัจจุบัน ห้องเรียนจะนำ Power point ใช้ในการนำเสนองาน ถึงแม้จะมีความสวยงาม แต่ Power point จะลดการคิด และการฝึกฝนของผู้เรียนลง ดังนั้นเราควรที่จะกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิด และฝึกฝนมากกว่าการนั่งดู Power point
3.4) สื่อและเครื่องมือการสอนแบบเก่าๆนั้นไม่ควรถูกมองข้าม  ครูบางคนพยายามจะแทนที่ทุกอย่างด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆแต่เราควรเข้าใจว่าสื่อบางชนิดไม่สามารถแทนได้ เช่น เครื่องบันทึกเสียง ยังมีบทบาทสำคัญในการสอน  ดังนั้นครูควรจะเลือกสื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหาและวิธีการสอน
3.5) สื่อเทคโนโลยีไม่ควรถูกใช้มากเกินไป เป็นที่เชื่อกันว่ายิ่งใช้สื่อมากบรรยากาศในห้องยิ่งดีขึ้น  ยิ่งนักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมมากเท่าใดก็จะยิ่งง่ายต่อการรับเนื้อหามากขึ้น  แต่ในความเป็นจริงแล้วสื่อมากเท่าไหร่ ความสนใจเด็กดึงไปที่สื่อมากเท่านั้น เนื้อหาที่เด็กได้รับจึงยิ่งน้อยมากขึ้นเท่านั้น  ดังนั้นควรใช้สื่อให้พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Links to websites related to ELT.

Nouns
http://ict.moph.go.th/English/content/nouns01.htm
Tenses
http://www.lks.ac.th/teacher_jonggonee/jongdream/tense.html
Prefix-Suffix
http://www.tentip.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-prefix-suffix/
Pronouns
http://ict.moph.go.th/English/content/pronouns.htm
การใช้ Some and Any
http://www.kanu.ac.th/elearning/e_eng/e6/e6.html

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Acronyms

IT ย่อมาจาก Information technology หรือในภาษาไทยเรียกว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานจัดการกับข้อมูล ข่าวสาร หรือที่เรียกว่าสารสนเทศ ศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นศาสตร์ที่ใหม่มาก และมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งในสามศาสตร์หลัก (เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีนาโนเทคโนโลยีชีวภาพ) ที่ถูกกล่าวว่าจะมีผลต่อสังคมในอนาคตมากที่สุด โดยปัจจุบัน มีผู้กล่าวถึง เทคโนโลยีสารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง โดยเราจะรู้จักกันทั่วไปในชื่อสั้นๆ ว่า ไอที (IT) รัฐบาลไทยเองก็เล็งเห็นความสำคัญด้านนี้มาก จึงมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่ที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้ขึ้น ชื่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือเรียกย่อๆ ว่า กระทรวงไอซีที  
ICT ย่อมาจาก Information and Communication Technology แปลว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
  ICT มาจาก
   -Information สารสนเทศ, สารนิเทศ, ในบางครั้งหมายถึงข้อมูล
   -Communication การสื่อสาร
   -Technology เทคโนโลยี
                ICT หมายถึง เทคโนโลยีที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ จัดหมวดหมู่ เรียงลำดับ สรุป คำนวณ จัดเก็บ ค้นคืน จัดทำสำเนา และแพร่กระจาย หรือสื่อสาร ข้อมูล ทำให้ข้อมูลกลายเป็นสารสนเทศที่ดี มีความถูกต้อง ตรงตามความต้องการ และเกิดคุณค่าต่อผู้ใช้        
สรุป เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) หมายถึง เทคโนโลยีทั้งหลาย (โดยมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นหลัก) ที่ทำหน้าที่ใน การจัดการข้อมูล ได้แก่ การนำข้อมูลเข้า การประมวลผลข้อมูล ให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ และเผยแพร่ต่อไปยังผู้บริโภค หรือผู้ใช้ ให้สามารถได้ใช้ผลผลิตนั้น อย่างถูกต้อง ตรงและทันกับความต้องการ เราสามารถใช้ติดต่อสื่อสารหาข้อมูล ความรู้ในการศึกษา กับสถาบันทั้งในและต่างประเทศได้ เพื่อหาความรู้และโลกทัศน์ใหม่ๆได้
ที่มา http://overthai.fix.gs/index.php?PHPSESSID=duv36o431o2c8lmvc5vs1n2c60&topic=113.0
CAI  ย่อมาจาก COMPUTER-ASSISTED หรือ AIDED INSTRUCTION ) คือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
 CAI หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดิทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลักษณะที่ ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุดโดยมีเป้าหมายที่สำคัญก็คือ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียน และกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่ จะเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นตัวอย่างที่ดีของสื่อการศึกษาในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์ หรือการโต้ตอบพร้อมทั้งการได้รับผลป้อนกลับ (FEEDBACK) นอกจากนี้ยังเป็นสื่อ ที่สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างผู้เรียนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถที่จะประเมิน และตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนได้ตลอดเวลา
CALL ย่อมาจาก  Computer-assisted language learning
CALL หมายถึง โปรแกรมช่วยเรียนภาษาโดยเฉพาะ ใช้ได้ทั้งกับการเรียนในห้องเรียน โดยมีผู้สอนเป็นผู้ควบคุมดูแลกระบวนการเรียนและการให้ผู้เรียนเรียนจากโปรแกรมด้วยตนเองที่ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-access learning center) หรือที่ศูนย์คอมพิวเตอร์และสำหรับสถานศึกษาทีมีความพร้อมก็อาจมอบแผ่นโปรแกรมให้ผู้เรียนนำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นอกสถานศึกษาโดยผ่านโมเด็มและสายโทรศัพท์

WBI ย่อมาจาก Web-based Instruction
WBI หมายถึง  การเรียนการสอนผ่านเว็บเป็นการใช้เว็บในการเรียนการสอนโดยอาจใช้เว็บเพื่อนำเสนอบทเรียนในลักษณะสื่อหลายมิติของวิชาทั้งหมดตามหลักสูตร หรือใช้เพียงการเสนอข้อมูลบางอย่างเพื่อประกอบการสอนก็ได้  รวมทั้งใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะต่างๆ ของการสื่อสารที่มีอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การเขียนโต้ตอบกันทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์และการพูดคุยสดด้วยข้อความและเสียงมาใช้ประกอบด้วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
CBI ย่อมาจาก Computer Based Instruction
CBI  หมายถึง การประยุกต์นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเรียนการสอน โดยมีการพัฒนาบทเรียน (Courseware) ขึ้นเพื่อเสนอเนื้อหาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในรูปแบบสื่อประสมคือ ข้อความภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว และเสียง การเสนอเนื้อหาดังกล่าวเป็นการเสนอโดยตรงไปยังผู้เรียนผ่านทางจอภาพหรือแป้นพิมพ์ บทเรียนจะถูกจัดเก็บไว้ในแผ่นดิสก์หรือหน่วยความจำของเครื่องพร้อมที่จะเรียกใช้ได้ตลอดเวลา ผู้เรียนจะต้องโต้ตอบหรือตอบคำถามเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยการพิมพ์ การตอบคำถามจะถูกประเมินโดยคอมพิวเตอร์และจะเสนอแนะขั้นตอนหรือระดับในการเรียนขั้นต่อ ๆ ไป กระบวนการเหล่านี้เป็นปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์
ที่มา http://www.edu.nu.ac.th/supanees/lesson/366515/unit5_p04.html
 CMC ย่อมาจาก Computer-mediated communication
CMC  คือ การติดต่อสื่อสารโดยปรากฏตัวผ่านรูปแบบสื่อคอมพิวเตอร์ เช่น E-mail, Chat room เป็นต้น  และยังได้รับการปรับใช้ในรูปแบบอื่นๆ ของการใช้ตัวอักษรเป็นหลัก เช่น Text Messaging หรือการส่ง SMS (short message service)บนมือถือ ในการวิจัยเรื่อง CMC จะเน้นไปที่เรื่องใหญ่ๆ คือ ผลตอบกลับทางสังคมที่ได้รับการสนับสนุนของเทคโนโลยีการสื่อสารที่แตกต่างกัน และเมื่อไม่นานมานี้มีการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก Social Networking ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Social Software
ที่มา http://www.thekanostudio.com/assignment_01cmc.html
TELL ย่อมาจาก  Teaching English Language Learners
TELL (Teaching English Language Learners) คือ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ให้แก่ผู้เรียนภาษาอังกฤษ โดยการศึกษามีความเชี่ยวชาญและความรู้สองภาษา แล้ว ตรวจสอบกลยุทธ์การสอนที่ดีที่สุดสนับสนุนการพัฒนาความรู้ของนักเรียนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง คุณจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างเกี่ยวกับภาษาของนักเรียนและประสบการณ์ของพื้นหลังและวิธีการสร้างสภาพแวดล้อมของห้องเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้การรู้หนังสือที่มีความหมาย
ที่มา http://www.learner.org/workshops/teachreading35/session6/index.html
MUD  ย่อมาจาก  Multiple User Dialogue
MUD  คือ  โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถเข้าสู่และสำรวจ ผู้ใช้แต่ละคนจะใช้เวลาการควบคุมของบุคคลคอมพิวเตอร์  ประจำ  ชาติ  ตัวละคร คุณสามารถเดินไปรอบ ๆ  แชทกับตัวละครอื่น ๆ  สำรวจพื้นที่มอนสเตอร์ที่รบกวนอันตรายแก้ปริศนาและแม้แต่สร้างห้องของตัวเองมาก  คำอธิบายและรายการ คุณยังสามารถได้รับการสูญหายหรือเกิดความสับสนถ้าคุณกระโดดสิทธิ์ในเพื่อให้แน่ใจว่าจะอ่านเอกสารฉบับนี้ก่อนที่จะเริ่ม
MOO  ย่อมาจาก MUD Object Oriented
MOO หมายถึง ระบบของการสื่อสารที่เป็น แบบซิงโครนัสที่ผู้ใช้(users) สามารถปฎิสัมพันธ์กันได้ด้วยการพิมพ์ข้อความ(text)โดยผู้สื่อสารกันนั้นสามารถ เลือกห้องหรือสถานที่สนทนากันได้ ซึ่งผู้สนทนาจะต้องอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า room เดียวกัน
ที่มา http://senarak.tripod.com/mudmoo.html





                                            

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

English Grammar Pronouns

Object Pronouns vs. Subject Pronouns

English Vocabulary - Look / See / Watch